หากพูดถึงยาคุมฉุกเฉิน เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน และรู้ว่ามันคือยาที่เอาไว้ใช้สำหรับการคุมกำเนิดชนิดหนึ่ง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้วิธีการใช้งานเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย วันนี้ Variety24hr จะพาทุกคนมาพบคำตอบทุกอย่างที่ควรรู้
ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร?
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (emergency contraceptive pills, morning-after pills) เป็นยาเม็ดเพิ่มฮอร์โมนขนาดสูงที่ใช้กินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ยาคุมฉุกเฉินควรใช้ตอนไหน?
ก่อนอื่นจะต้องทราบก่อนว่าการกินยาคุมฉุกเฉินนั้นไม่ใช่วิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่่เป็นวิธีปกติ จะต้องมีเหตุสำคัญ ดังนี้
- หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน (ไม่ได้ใส่ถุงยาง)
- หลังจากการหลั่งในโดยการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใส่ถุงยาง
- ถุงยางที่ใช้มีเพศสัมพันธ์ ขาดหรือแตกขณะมีเพศสัมพันธ์
- ใส่ถุงยางไม่ถูกต้อง
- สตรีถูกข่มขืน (Sexual assault)
- ลืมทานยาคุมกำเนิด หรือไม่ได้ฉีดยาคุมตามกำหนด
- คำนวณวันตกไข่ผิดพลาด
กินยาคุมฉุกเฉินตอนไหนดีที่สุด?
การคุมกำเนิดด้วยวิธีกินยาคุมฉุกเฉินจะะให้ประสิทธิภาพดีที่สุด ภายใน 2 – 3 วันแรกของการเกิดเหตุการณ์ต่างๆ โดยจะไปรบกวนการตกไข่ หรือรบกวนการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิแต่หากได้รับการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนแล้ว จะไม่สามารถป้องกันได้
ยาคุมฉุกเฉินมีกี่แบบ
ยาคุมฉุกเฉินปัจจุบันมี 1 แบบ คือ แบบเม็ด ตามภาพข้างล่าง


วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน
- กรณีกินยาคุมฉุกเฉิน แบบ 2 เม็ด เริ่มต้นให้กินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ข้อควรระวังหากมีการอาเจียน ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานเม็ดแรก ต้องเริ่มรับประทานใหม่ หลังจากนั้นเมื่อผ่านไป 12 ชั่วโมงให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่ 2 และห้ามกินเกิน 4 เม็ด (2 กล่อง) ต่อเดือน
- หากเริ่มกินยาเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมง ประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ 85%
- หากเริ่มกินยาเม็ดแรกหลังจาก 24 – 72 ชั่วโมง ประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ 75%
- ข้อสังเกต สามารถกินพร้อมกัน 2 เม็ดได้ โดยประสิทธิภาพการป้องกันยังเหมือนเดิม
- กรณีกินยาคุมฉุกเฉิน แบบ 1 เม็ด วิธีกินยาใช้การนับเวลาเหมือนกับ แบบ 2 เม็ด คือ ภายใน 72 ชั่วโมง โดยประสิทธิภาพเหมือนกับการกินยาคุมฉุกเฉิน แบบ 2 เม็ด ถ้าให้ดีควรกินภายใน 24 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงหลังกินยาคุมฉุกเฉิน
- ประจำเดือนจะเริ่มมาแบบไม่ปกติ
- ปวดหัว
- คลื่นไส้ อาเจียน (อย่าลืมหากอาเจียนหลังกินยาไม่ถึง 2 ชม. ควรเริ่มกินใหม่)
- ปวดท้องเหมือนมีประจำเดือน
- เสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูก
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกินยาคุมฉุกเฉิน
- ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเพื่อคุมกำเนิดระยะยาว แน่นอนว่าชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ยาคุมฉุกเฉิน” ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น การใช้ยาเหมือนกับการใช้ยาคุมทั่วไปจึงเป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างมาก เพราะผลข้างเคียงอย่างที่บอกไปข้างต้นแล้ว ควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นดีกว่า ซึ่งมีหลากหลายวิธี
- ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาทำแท้ง เพราะว่ายานั้นจะเข้าไปในร่างกายก่อนที่จะมีการฝังตัวของไข่ที่เยื่อบุโพรงมดลูก เแต่หากไข่ที่ผสมกับอสุจิได้ฝังตัวที่ผนังมดลูกไปแล้ว ยานี้จะทำอะไรไม่ได้
- ยาคุมฉุกเฉินป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้ เป็นอีกหนึ่งความเข้าใจผิด เพราะยาตัวนี้นั้นช่วยป้องกันในเรื่องตั้งครรภ์เท่านั้นไม่สามารถไปออกฤทธิ์กำจัดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ได้
- ยาคุมฉุกเฉินไม่ทำให้ทารกพิการ หากกินไปโดยไม่รู้ตัวว่าเริ่มตั้งครรภ์แล้ว มีรายงานว่า ไม่พบทารกพิการจากมารดาที่รับประทานยาโดยไม่ทราบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์
ข้อห้ามใช้ยาคุมฉุกเฉิน
- ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง
- โรคเกี่ยวกับตับ
- เคย หรือเป็นโรคหัวใจ
- ความดันโลหิตสูง
- ลิ่มเลือดอุดตัน
- ลมชัก
- เบาหวาน
- อายุมากกว่า 35 ปี อ้วน สูบบุหรี่จัด
- ไมเกรน
อย่างที่ทราบกันไปว่ายาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่อนข้างสูง แต่ก็มาพร้อมกับผลข้างเคียงที่ไม่สามารถคาดเดาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการคุมกำเนิดแบบทั่วไปจะตอบโจทย์สำหรับคนที่วางแผนหรือยังไม่พร้อมจะมีบุตร ส่วนใครที่พลาดก็อย่าพลาดบ่อยจนเป็นเรื่องชิน
ราคายาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉินสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โดยไม่ต้องมีใบสั่งของแพทย์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 50 – 100 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข , โรงพยาบาลรามคำแหง
“แพ้ท้อง” อาการเป็นอย่างไร พร้อมวิธีรับมือ อ่านที่นี่